ประเภทของรองเท้าเซฟตี้ (Safety Shoes)

รองเท้าเซฟตี้ (Safety Shoes)

รองเท้าเซฟตี้ (Safety Shoes) หรือรองเท้านิรภัย คือ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล โดยส่วนใหญ่รองเท้าเซฟตี้จะประกอบด้วยหัวรองเท้า (Toe Cap) ที่ทำจากหัวเหล็กหรือหัวคอมโพสิต พื้นผิวด้านบน (Upper) เป็นหนังหรือผ้าใบ พื้นรองในรองเท้า (Insock) รองพื้นรองเท้า (Mid Sole) พื้นรองเท้า (Out Sole) และวัสดุเสริมพื้นรองเท้าที่สามารถกันเจาะทะลุได้ดี เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากของหนักตกหล่นใส่เท้าเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม งานช่าง งานครัวและงานอื่นอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีหลายแบบและหลายมาตรฐานให้เลือกใช้งานอีกด้วย

รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต (Protective Sneakers)

รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต (Protective Sneakers) หรือรองเท้าเซฟตี้แบบผ้าใบ เป็นรองเท้าเซฟตี้อีกรูปแบบที่ดีไซน์ผลิตภัณฑให้ทันสมัยมากขึ้น และมีมาตรฐานที่แตกต่างจากรองเท้าเซฟตี้แบบหนัง โดยเป็นรองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต สวมใส่สบาย ช่วยป้องกันเท้าระหว่างทำงานในไซต์งานต่างๆ ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น รองเท้าเซฟตี้กลุ่มนี้วางจำหน่ายกันทั่วไปจะเป็นมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น คือ มาตรฐาน JIS แบ่งเป็น Class S และ Class L และมาตรฐาน JSAA Class แบ่งออกเป็น Class A และ Class B แต่ละมาตรฐานและคลาสมีคุณสมบัติในการป้องกันที่แตกต่างกัน เช่น รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต Class A หัวรองเท้ากันกระแทก 70J และ Class B กันกระแทก 30J เป็นต้น

รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต JSAA Class A (Protective Sneakers JSAA Class A)

รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต JSAA Class A (Protective Sneakers JSAA Class A) ป็นรองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ตสำหรับงานทั่วไป มีมาตรฐานป้องกันกระแทกหัวเท้าอยู่ที่ 70J, ทนต่อแรงกดทับ 10kN, ติดแน่นระหว่างพื้นรองเท้ากับหนังส่วนบนของวัสดุหนังและยาง ≥ 300N และทำจากหนังเทียม หนังสังเคราะห์ ผ้าถัก และพลาสติก ≥ 200N ซึ่งรองเท้าเซฟตี้ทรงทันสมัย วัสดุคุณภาพดี ทนทานต่อการใช้งาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเท้าผู้สวมใส่มากยิ่งขึ้น

รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต JSAA Class B (Protective Sneakers JSAA Class B)

รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต JSAA Class B (Protective Sneakers JSAA Class B) เป็นรองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ตสำหรับงานเบา มีมาตรฐานป้องกันกระแทกหัวเท้าอยู่ที่ 30J, ทนต่อแรงกดทับ 4.5kN, ติดแน่นระหว่างพื้นรองเท้ากับหนังส่วนบนของวัสดุหนังและยาง ≥ 250N และทำจากหนังเทียม หนังสังเคราะห์ ผ้าถัก และพลาสติก ≥ 150N รองเท้าเซฟตี้ดีไซน์ทันสมัย วัสดุคุณภาพดี และมีความทนทานต่อการใช้งาน จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเท้าผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

รองเท้าทำงานป้องกันไฟฟ้าสถิต (Anti Static Working Shoes)

รองเท้าทำงานป้องกันไฟฟ้าสถิต (Anti Static Working Shoes) ตัวรองเท้าเซฟตี้ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทาน สวมใส่สบาย เป็นรองเท้าที่มีคุณสมบัติต้านทานไฟฟ้าสถิตจะถ่ายเทไฟฟ้าสถิตในตัวคนลงสู่พื้น ช่วยป้องกันอันตรายจากการสะสมประจุไฟฟ้าสถิตในร่างกาย เพื่อป้องกันผู้ปฏิบัติงานจากประกายไฟ ระเบิด และอันตรายอื่นๆ จากไฟฟ้า ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

รองเท้าเชฟกันลื่น / รองเท้าพ่อครัว / รองเท้าแม่ครัว (Kitchen Shoes)

รองเท้าเชฟกันลื่น / รองเท้าพ่อครัว / รองเท้าแม่ครัว (Kitchen Shoes) หรือรองเท้าเซฟตี้กันลื่นสำหรับงานในครัว เป็นรองเท้าทำงานสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและใช้ในชีวิตประจำวันในครัว สวมใส่สบายเท้า ยึดเกาะดี ช่วยป้องกันการลื่นระหว่างทำงาน ป้องกันแบคทีเรียและระงับกลิ่น ระบายอากาศได้ดี เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี มีให้เลือกหลายทรง เช่น รองเท้าเซฟตี้แบบสวม (Slip On) เป็นต้น

รองเท้าเซฟตี้บูท (Safety Boots)

รองเท้าเซฟตี้บูท (Safety Boots) หรือรองเท้านิรภัยแบบบูท มีลักษณะเป็นรองเท้าทรงสูง มีแบบคลุมครึ่งหน้าแข้งและแบบยาวคลุมขา โดยรองเท้าเซฟตี้บูทจะมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบรองเท้าบูทกันเคมี รองเท้าบูทกันน้ำมัน รองเท้าบูทกันไฟ รองเท้าบูทกัน รองเท้าบูทกันความเย็นหรือรองเท้าบูทหัวเหล็ก ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติในการป้องกันเท้าที่แตกต่างกัน ช่วยให้ผู้ใช้หรือผู้ปฏิบัติงานในด้านเหล่านั้นได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

รองเท้าบูทยางกันไฟฟ้า (Electrical Rubber Boots)

รองเท้าบูทยางกันไฟฟ้า (Electrical Rubber Boots) เป็นรองเท้าเซฟตี้แบบบูทที่ผลิตจากยางที่มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าแรงสูง พื้นรองเท้าสามารถกันลื่น ทนน้ำมัน ทนพื้นที่มีความร้อนได้ดี ใส่ลุยน้ำได้ เหมาะสำหรับงานช่างไฟฟ้าที่ทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีอันตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงดันสูง

รองเท้าบูทกันความเย็น (Winter Boots)

รองเท้าบูทกันความเย็น (Winter Boots) เป็นรองเท้าเซฟตี้แบบบูทที่ผลิตจากวัสดุยางหรือ EVA ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้มีคุณสมบัติในการป้องกันเท้าจากความเย็นที่ติดลบได้ และมีทั้งรุ่นมีและรุ่นไม่มีป้องกันกระแทกตรงหัวรองเท้า รวมถึงยังสามารถป้องกันด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น ทนน้ำมัน ไขมัน กรด กันลื่น ป้องกันไฟฟ้าสถิต เป็นต้น นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและอื่นๆ

รองเท้าบูทกันลื่น (Anti Slip Boots)

รองเท้าบูทกันลื่น (Anti Slip Boots) เป็นรองเท้าเซฟตี้บูทที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากยางสังเคราะห์ วัสดุมีความทนทานสูง ซึ่งออกแบบมาให้มีคุณสมบัติในการกันลื่นที่ดีเยี่ยมและช่วยลดแรงกระแทกระหว่างเดินทำงานได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ในสถานที่พื้นที่ต้องมีการเปียกน้ำ น้ำมัน น้ำสบู่หรืออื่นๆ อยู่เสมอ เหมาะกับงานในห้องครัว อุตสาหกรรมอาหาร ร้านอาหาร ฯลฯ

รองเท้าบูทหุ้มข้อ (Tactical Boots)

รองเท้าบูทหุ้มข้อ (Tactical Boots) เป็นรองเท้าที่ใช้สำหรับปกป้องเท้าอีกรูปแบบ มีลักษณะเป็นรองเท้าคอมแบทซึ่งมีมาตรฐานรองเท้าเซฟตี้หรือรองเท้านิรภัยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น มาตรฐานอเมริกัน ASTM F2413-11 ที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ รองเท้านิรภัยพื้นฐานหรือรองเท้าหัวเหล็ก และกลุ่มรองเท้านิรภัยเฉพาะด้าน เช่น ป้องกันกระแสไฟฟ้าสถิต ป้องกันกระแสไฟฟ้าและอื่นๆ

รองเท้าบูท (ไม่มีส่วนหัวรองเท้า) (Boots (Without Toe Cap))

รองเท้าบูท (ไม่มีส่วนหัวรองเท้า) (Boots (Without Toe Cap)) เป็นรองเท้าบูทที่ไม่มีวัสดุส่วนหัวรองเท้า ไม่สามารถรับแรงกระแทกหนักๆ ได้อย่างรองเท้าบูทชนิดที่มีส่วนหัวรองเท้า ทำให้ไม่เหมาะกับงานหนักหรืองานที่เสี่ยงต่อสิ่งของตกใส่เท้า รองเท้าบูทชนิดไม่มีส่วนปกป้องนิ้วเท้านิยมใส่เดินและป้องกันทั่วไป เช่น กันน้ำ กันสารเคมี กันน้ำมัน เป็นต้น

รองเท้าบูท (มีส่วนหัวรองเท้า) (Boots (With Toe Cap))

รองเท้าบูท (มีส่วนหัวรองเท้า) โดยรองเท้าบูทที่มีส่วนหัวรองเท้ามีทั้งชนิดหัวเหล็กและหัวคอมโพสิต ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติป้องกันแรงกระแทกได้ต่างกัน ดังนั้น ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะการทำงาน นอกจากนี้รองเท้าบูทที่มีส่วนหัวรองเท้ามีหลายประเภท เพื่อป้องกันในด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและโคลนเข้า กันน้ำมัน กันลื่น ทนสารเคมี ป้องกันไฟฟ้าสถิต ฯลฯ

รองเท้าสลิปเปอร์ / รองเท้าแตะป้องกันไฟฟ้าสถิต (Slippers)

รองเท้าสลิปเปอร์ / รองเท้าแตะป้องกันไฟฟ้าสถิต (Slippers) เป็นรองเท้าแตะแบบสวมใส่ง่าย ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา และช่วยลดอาการเมื่อยล้าของเท้าจากการทำงานตลอดทั้งวันได้ดีเยี่ยม และรองเท้ายังมีคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิต จึงเหมาะสำหรับใช้ในงานอิเล็กทรอนิกส์และในอุตสาหกรรมเบา ทำให้นิยมใช้ในผู้ปฏิบัติงานที่ยืนหรือเดินตลอดทั้งวัน